โดย ceo วรีวรรณ เซ่งฮวด เเม่เจ๊ ดีไซน์มาเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด ในการ ดูเเลสุขภาพเเละความงาม ตัดเย็บด้วยเนื้อผ้าที่หนาด้วยความทนทานตัด ออกเเบบมาเพื่อ สามารถพับเก็บได้ เป็นประหยัดพื้นที่ในการเก็บ พกพาได้สะดวก เช็ดทำความสะอาดได้ในไร้รูรั่ว ควบคุมการกระจายของไอน้ำได้ดีกว่าตู้อบโดยทั่วไป ป้องกัน การระเหยของไอน้ำที่เป็นการกลั่นของสมุนไพร กว่า100 ชนิด ได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตและน้ำเหลืองบริเวณผิวหนังดีขึ้น รายละเอียดสินค้า : มาพร้อมเบาะที่นั่ง และพนักพิงในตัว เเข็งเเรงอย่างดี สินค้าประกอบด้วย
สมุนไพรสามารถ ใช้อบ ได้ถึง 30 ครั้ง
เรื่องง่ายๆ ที่คุณไม่ควรมองผ่าน การอบสมุนไพร เป็นการล้างพิษอีกวิธีหนึ่งที่ใช้กันมานานแล้ว คือการใช้ ความร้อนบำบัดเพื่อสร้างความผ่อน คลาย เเละรักษาโรค นั่นเอง ซึ่งเดิมทีการอบสมุนไพรจะใช้ในหมู่สตรี ที่คลอดลูกใหม่ๆ ซึ่งจะต้องอาบน้ำร้อน ดื่มน้ำร้อนที่เป็นน้ำต้มสมุนไพร และนอนย่างไฟบนแคร่ไม้ไผ่ที่ปูรองพื้นด้วยสมุนไพร แต่มาสมัยนี้ ได้มีการพัฒนาเป็นตู้อบความร้อน ใช้ง่ายสะดวกเเละราคาไม่เเพงนักใช้งานง่ายปลอดภัยเรามีการประยุคต์มาเป็นเเบบฉบับของตู้อบโฉมอนงค์เพื่อควสมปลอดภัยใช้งานง่าย เก็บง่ายๆ ไม่เปลืองพื้นที่ เเละที่สำคัญทนทานใช้ได้นานไม่สิ้นเปลืองอีกด้วยความรู้ โดยทั่วไปเกี่ยวกับสมุนไพรไทยนั้น สำหรับคนไทยเราในการแพทย์แผนไทย เราใช้การอบสมุนไพรดีกว่าการอบซาวน่า เพราะมีสมุนไพร ซึ่งเป็นตัวยาที่เห็นผลปลอดภัยมีกลิ่นหอมตามเเบบฉบับของสมุนไพรนั้นๆช่วยให้ทางเดินหายใจโล่งสบาย ช่วยบำรุงผิวพรรณ หรือรักษาโรค การอบสมุนไพรถือว่าเป็นการช่วยล้างพิษออกทางเหงื่อ ผิวหนังของคนเราจะเป็นส่วนที่กว้างที่สุด ดังนั้นการขับสารพิษส่วนเกินออกทางเหงื่อจึงได้ผลดีมาก เวลาที่ร่างกายทุกส่วนเกิดความร้อนขึ้นพร้อมกันมักจะทำให้เส้นเลือดที่ผิวหนังขยายตัว และเลือดก็จะพรั่งพรูกันขึ้นมาที่ผิวหนังเป็นจำนวนมาก พาเอาสารเคมีส่วนเกิน เช่น โซเดียม โปตัสเซียม หรือสารอื่นๆ ที่รับเข้าไปเกินความต้องการนั้นถูกหลั่งออกมากับเหงื่อ และ ในเวลาเดียวกันนั้นนอกจากจะล้างพิษออกไปแล้ว เลือดที่มาเลี้ยงที่ผิวหนังมากขึ้น ยังช่วยนำพาสารอาหารที่ดีๆ มาให้ ผิวหนังจึงสวยขึ้นด้วย รวมไปถึงไขมันที่จะสมที่ผิว ที่เราเรียกว่า ไขมัน พอกพูนตามต้นเเขน ขา หน้าท้อง รวมไปถึงทุกๆส่วนของร่างกายให้ออกมาทางรูขุมขนทางเหงื่อของเรานั่นเอง ประเภทของการอบสมุนไพร การอบสมุนไพรมี 2 แบบ คือ 1. การอบแห้ง เป็นวิธีการอบตัวที่พัฒนามาจากประเพณีไทยดั้งเดิม ซึ่งมีพิธีกรรมต่างๆที่รักษาขวัญกำลังใจสำหรับมารดาหลังคลอด มีการอาบน้ำต้มสมุนไพรและทาตัวด้วยขมิ้น เพื่อบำรุงรักษาอาการอักเสบที่ผิวหนังและนิยมอยู่ไฟหลังคลอดด้วยการนอนบนแคร่ไม้ มีกองฟืนให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายจะช่วยกระตุ้นให้มดลูกหดรัดตัว ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น รวมไปถึงการฟื้ฟูธาตุต่างๆในร่างกายให้ปรับตัวดีขึ้นทำให้สุขภาพร่างกายเเข็งเเรง ความดันโลหิตดี มีความพร้อมในร่างกายมากขึ้น ร่างกายเเข็งเเรงเเละมีกำลังเรี่ยวเเรงเป็นปรกติรักษาผิวพรรณ และช่วยลดน้ำหนักส่วนเกิน ได้อย่างรวดเร็วปลอดภัยนับว่า ยอมรับเป็นอย่างดีอีกวิธีหนึ่ง ในการดูเเลตัวเอง 2. การอบเปียก เป็นการบำบัดรักษาวิธีหนึ่ง ซึ่งเริ่มต้นจากประสบการณ์การนั่งกระโจมของหญิงหลังคลอด โดยใช้ผ้าทำเป็นกระโจม คลุมไว้มิดชิด มีหม้อต้มสมุนไพรเดือดเป็นไอ ให้อบและสูบดมไอน้ำได้ และ ปัจจุบันได้นำวิธีการนี้มาพัฒนาให้เข้ากับชีวิตความเป็นอยู่สมัยใหม่โดยทำเป็นตู้อบไอน้ำสมุนไพรที่ทันสมัยขึ้น ใช้หม้อต้มที่มีท่อส่งไอน้ำเข้าไปภายในตู้อบ หรือทำเป็นตู้แล้วเข้าไปนั่งอบตัว ส่วนประกอบของสมุนไพรที่ใช้อาจแตกต่างกันได้ตามวัตถุประสงค์ เพื่อรักษาอาการต่างๆ เช่น ทำให้ร่างกายสดชื่น ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ช่วยขับเหงื่อคลายความเครียด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่แข็งเกร็งและลดอาการปวดตามข้อ ทางการแพทย์ในปัจจุบันได้มีการยอมรับแล้วว่า การอบตัวด้วย ความร้อนสามารถช่วยให้การไหลเวียนของโลหิต และน้ำเหลืองบริเวณผิวหนังดีขึ้น ทำให้ร่างกายปรับสมดุลได้ดี ภูมิคุ้มกันในร่างกายดีเป็นทางลัดที่ดีที่สุดของคนที่รักสุขภาพเเค่ไม่มีเวลาดูเเลตัวเอง ไม่มีเวลาออกกำลังกาย เป็นการใช้สมุนไพรที่คุ้มค่า เเละราคาไม่สูงจับต้องได้ ไอน้ำของสมุนไพรจะมีสรรพคุณตามคุณสมบัติของสมุนไพรนั้นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ช่วยให้ร่างกายเกิดความสดชื่น ขั้นตอนในการอบสมุนไพรก่อนเข้าตู้อบสมุนไพรเราจะทาน้ำนม สมุนไพร ก่อนทุก ครั้งเเล้วนวดครึ่งลงบนผิวเพื่อทำการกระตุ้นไขมันใต้เซลล์ให้ละลายเร็วขึ้น เพื่อให้ออกมากับเหงื่อเมื่อร่างกายเเละผิวหนังสัมผัสกับความร้อน น้ำนมสมุนไพร ช่วย ในเรื่องการ สลายไขมันกระชับสัดส่วน บำรุงผิวลดปัญหาผิวหนังเเห้งเเตกลาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพเเละรวดเร็วไม่มีส่วน ประสมของสารเคมี มีส่วนประกอบของพริกเเละน้ำนมสมุนไพรที่ได้ จากข้าวหมัก ยีสต์ เเละ Active จากสมุนไพรมากมายกว่า 80 ชนิดเข้ากันอย่างลงตัว วิธีการเข้าทำการอบ 2 ครั้ง ครั้งละ 15 -30 นาที กรณีผู้ไม่เคยอบควรอบ 3 ครั้ง ครั้งละ 10 นาที เมื่อครบจำนวนนาทีไม่ควรอาบน้ำทันที ต้องออกมานั่งพักให้เหงื่อแห้งแล้วจึงอาบน้ำ เพราะทำให้ร่างกายปรับธาติเสียก่อน เมื่อทำการอบจนครบขั้นตอนควรชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิตดูว่า อาการดีขึ้นหรือไม่ ประโยชน์ของการอบสมุนไพร เช่น ร่างกายมีการเผาผลาญสารอาหารเพิ่มขึ้น การไหลเวียน โลหิตดีขึ้น ทำให้ร่างกายสดชื่น กระปรี่กระเปร่า แจ่มใส อารมณ์ดี สุขภาพจิตดีเพราะเป็นืดารสร้าง ความผ่อนคลายด้วย การบำบัดและทำให้ผิวพรรณดูมีเลือดฝาดบรรเทาอาการปวดเมื่อย ทำให้มดลูกของสตรีหลังคลอดเข้าอู่เร็วขึ้น รักษากบิ่นบริเวณช่องคลอด ลดอาการคัน อันเนื่องจากเป็นตกขาว นอกจากนี้ ยังมีโรคหรืออาการที่สามารถบำบัดรักษาด้วยการอบสมุนไพร เช่นโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืดที่อาการไม่รุนแรง ในปัจจุบันการอบสมุนไพรได้รับความนิยมกันมากขึ้น เพราะเป็นการส่งเสริมการใช้สมุนไพรไทย เห็นคุณค่าของผลิตภัณฑ์ที่ได้มาจากธรรมชาติ. เน้น เรื่องการปลอดภัยไม่พึ่งเคมี
|
สอบถามเพิ่มเติม โทร : 083-717-9939 , 086-413-0613 , 080-086-7689
หห |